วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

โครตระทึก!! หนุ่มใช้มือเปล่ารับหญิงพลัดตกจากชั้น 11 เหตุการณ์นี้จะเป็นอย่างไรมาดูกัน!!

สยามอัพเดทมีรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. รายงานว่านายเฟิ่ง หนิง หนุ่มชาวจีน ใช้มือเปล่ารับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตกลงมาจากอาคาร ชั้น 11 ในมณฑลหูเป่ย์ จากคลิปวิดีโอของกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นภาพนายเฟิ่ง หนิงแหงนมองขึ้นไปด้านบนอาคาร กางมือรอรับ จากนั้นไม่กี่วินาที มีหญิงคนหนึ่งตกลงมาสู่อ้อมแขนของเขา แต่แรงกระแทก ทำให้ทั้งคู่ล้มกองกับพื้น

นายเฟิ่ง หนิง เล่าว่า ได้ยินเสียงคนร้องไห้ขอความช่วยเหลือจากอาคารใกล้ๆ เขาจึงเดินออกมาจากร้านอาหาร และเห็นผู้หญิงห้อยอยู่บริเวณหน้าต่างชั้น 11จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย แต่สุดท้าย ผู้หญิงคนดังกล่าวก็เสียชีวิต ส่วนตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อต่อหัวเข่า และกระดูกหน้าแข้งแตก เขากล่าวแสดงความเสียใจ ที่ไม่อาจช่วยชีวิตหญิงคนดังกล่าวได้
ทีมา   http://www.siamupdate.com/news-179830

วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สุดสลด! พบแล้ว สาวหน้าตาดี 15 ที่หายไป แต่กลับพบที่นี่ หัวอกพ่อแม่ถึงกับใจสลาย

ฝากช่วยกันแชร์ ให้คนทำมาติดคุกกันด้วยนะครับ

ผู้สื่อข่าวสยามอัพเดท ได้รับรายงานว่า หลังจากได้มีรายงานข่าว สาว 15 ได้หายตัวออกจากบ้านไป ล่าสุุด ข้อมูลจากเพจ กู้ภัยสุรินทร์  ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพผู้หญิงถูกนำมาทิ้งไว้ภายในท่อระบายน้ำ ที่บริเวณถนนสายสุรินทร์-ปราสาท บ้านตระงอน หมู่ที่ 9 ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงพร้อมด้วยหน่วยอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่างนางสาวส้ม (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี หน้าตาดี อยู่ภายในท่อสภาพสวมเสื้อยืดสีแดงท่อนร่างเปลือยเปล่า ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด ใกล้ ๆ กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าสกู๊ปปี้ สีส้มดำ ทะเบียน 1 กฌ- 454 สุรินทร์ จอดอยู่

   เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจถูกคนร้ายลวนลาม-ข่มขืน แต่ผู้ตายคงขัดขืนและต่อสู้จึงเป็นเหตุให้ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ก่อนจะนำศพมาทิ้งไว้ที่บริเวณท่อดังกล่าวเพื่ออำพรางคดี

ภาพจาก เฟซบุ๊ก หน่วยกู้ภัยสุรินทร์
เมื่อข้อมูลดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไป ก็มีผู้มาแสดงความคิดเห็นในเชิงโกรธแค้น ผู้ทำเป็นจำนวนมาก และวอนช่วยกันตามล่าคนทำให้มาติดคุกโดยไว
ทีมา   http://www.siamupdate.com/news-179701

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ตะลึงตาค้าง! เมื่อตำรวจไทย ได้โบกเรียกรถคันนี้ คันแรกและคันเดียวของเมืองไทย

เรียบเรียงข้อมูลโดย ผู้สื่อข่าวสยามอัพเดท
วันนี้ผู้สื่อข่าวสยามอัพเดท ได้รับการแชร์ข้อมูลจากสมาชิก ในกลุ่มข่าวของชาวอยุธยาแจ้งข่าวช่วยบอกด้วย
โดยคุณ Anithawut Boonyarit ได้ทำการแชร์ภาพของรถที่สุดฮือฮา โดยเป็นรถมินิบัสที่เราไม่เคยเห็นแน่นอน เป็นรถแต่งไซส์เล็ก น่าจะใหญ่กว่ารถเก๋งขนาดกลาง
เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง แต่ภายในนั้นได้ตกแต่งเต็มไปด้วยเครื่องเสียง ออกแนวเอาใจสายตึ้บ เชื่อได้เลยว่ารถคันนี้ต้องเป็นแรงบันดาลใจ ให้อีกหลายๆคนแน่นอน

เรามาชมภาพกันเลยดีกว่า
"ของดีอยุธยาครับ อยากได้แบบสวยๆอย่างนี้ ต้องลงทุนครับ แถวเสนา ลองดูครับ"
โดยในภาพได้เห็นคุณตำรวจทำการตรวจเรียก โดยที่เจ้าของภาพได้แจ้งว่าตำรวจได้เรียกสอบถามเฉยๆเพียงเท่านั้น
เมื่อภาพดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไป ก็มีผู้มาแสดงความคิดเห็นในเชิงที่อึ้ง และชื่นชมเจ้าของรถอย่างมาก
เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคน
ทีมา   http://www.siamupdate.com/news-179739

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558

แทบทรุด! พ่อบ้านใจกล้า แอบซ่อนเเงิน 1 ล้าน ภรรยาไม่ให้รู้ แต่เมื่อกลับมาบ้าน เห็นสิ่งที่ภรรยาทำ ใจแทบสลาย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่มณฑลหูหนาน ประเทศจีน หญิงรายหนึ่งถึงกับช็อค เมื่อสามีเตรียมเงิน  1 ล้านบาท ซ่อนไว้ในเตาฟืน คิดว่าปลอดภัย ไม่เชื่อมั่นในการฝากเงินไว้ที่ธนาคาร สุดท้ายภรรยาดันลืมไปว่าสามีเก็บเงินไว้ในนั้น  จึงเผาเงินเสียหาย

โดยเหตุดังกล่าวเริ่มจาก นางฮาว ปิน หญิงชาวจีน อายุ 35 ปี  เข้าครัวไปต้มน้ำไว้สำหรับชงชา ขณะจุดไฟในเตา เธอดันลืมไปว่า ได้เก็บเงินไว้ในนั้น กว่าจะนึกได้ก็สายเสียแล้ว

ด้านนาย หวัง สามีของ ฮาว ปิน  เจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้างเล็กๆ รีบหอบธนบัตรไปขอแลกกับทางธนาคาร แต่ไม่สำเร็จ เพราะธนบัตรได้เสียหายไปเกินครึ่งใบ แต่สุดท้ายถึงอย่างไร ฝ่ายชายก็ไม่โกรธภรรยา เพราะรู้ว่าทำไปเพราะไม่ได้ตั้งใจ
ทีมา   http://www.siamupdate.com/news-179761

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ด่วนที่สุด !! ศาลพิพากษา พม่าจำเลยคดีฆ่า 2 ฝรั่งที่เกาะเต่า ว่าแบบนี้ แม่เหยื่อช็อกเป็นลม

 เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 24 ธ.ค. ที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รถควบคุมผู้ต้องขังเรือนจำอำเภอเกาะสมุยได้นำตัวนายซอริน และนายเวพิว แรงงานต่างชาติชาวเมียนมา เชื้อสายยะไข่ จำเลยในคดีฆาตกรรมนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี และน.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ บริเวณโขดหินแหลม จปร. หาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 57 ที่ผ่านมา เพื่อมาฟังศาลอ่านคำพิพากษาตัดสินในคดีนี้ที่ห้องพิจารณาคดีบัลลังท์ 6 โดยจำเลยทั้งสองมีสีหน้านิ่งเฉย ท่ามกลางกองทัพนักข่าวหลายสำนักทั้งจากไทยและต่างประเทศมารอทำข่าว



    ในการฟังคำพิพากษาในวันนี้เจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย ได้มาพร้อมกับพ่อและแม่ของนายเดวิด วิลเลี่ยม มิลเลอร์ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ส่วนครอบครัวของน.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ลูกของทั้งสองครอบครัวได้เสียชีวิตจากการเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะเต่า โดยตำรวจจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าลูกได้ทั้งสองครอบครัวก็เฝ้าติดตามการทำงานของกระบวนการยุติธรรมของไทยมาตลอด  จนถึงวันนี้ซึ่งเป็นวันพิจารณาคดีพวกเราก็หวังว่าความยุติธรรมจะยังคงอยู่กับครอบครัวเราทั้งสอง


    ด้านครอบครัวของนายเวพิว และนายซอริน  ได้เดินทางมาศาลพร้อมด้วยทีมทนายความ  โดยนางพิว ชุยนุก แม่ของนายเวพิว กล่าวผ่านล่ามทั้งน้ำตาว่า ยังเชื่อมั่นว่าลูกชายของตนเองทั้งสองคนไม่ได้เป็นคนฆ่าสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอย่างแน่นอน พร้อมกับเชื่อมั่นในความยุติธรรมของผู้พิพากษาที่จะตัดสินในวันนี้ ก่อนที่จะเข้าห้องพิจารณาคดี เพื่อฟังคำตัดสินในวันนี้


   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้พิจารณาแล้วว่าทั้งนายเวพิว และนายซอริน มีความผิดจริง เนื่องจากมีพยานหลักฐานว่าทั้ง 2 คนฆาตกรรมนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี และน.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษจริง จึงพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน แม่ถึงกับช็อกรับไม่ได้กับสิ่งที่ลูกไม่ได้ทำทางบ้าน จำเลย กล่าว

    สำหรับคดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า ได้แถลงปิดคดีเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยทนายของจำเลยแถลงปิดคดีเกาะเต่าขอให้ศาลยกฟ้องแรงงานชาวเมียนมา เพราะการดำเนินคดีกับจำเลยก่อนฟ้องคดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยรับสารภาพโดยไม่สมัครใจ ไม่มีดีเอ็นเอของจำเลยบนจอบที่ใช้ก่อเหตุฆาตกรรม  กระบวนการเก็บดีเอ็นเอส่วนที่เชื่อมโยงกับจำเลยก็ขาดความน่าเชื่อถือ และโจทก์ขาดหลักฐานชิ้นสำคัญในการพิสูจน์ความผิดของจำเลย
ทีมา   http://www.siamupdate.com/news-179717

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ฝากเตือน! ครอบครัวนี้เป็นมะเร็งยกครัว 4 คน แต่เมื่อรู้สาเหตุสิ่งที่ก่อมะเร็งมันอยู่ในครัว น่ากลัวมาก!

ในประเทศจีนมีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเป็นโรคมะเร็ง หลังจากที่เธอรู้ว่าโรคร้ายได้คุกคามร่างกายของเธอเธอก็ร้องไห้ทั้งวันทั้ง คืนไม่มีหยุด ผ่านไปไม่นานลูกสาวและลูกชายของเธอก็ถูกตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งเช่นกัน เท่ากับว่าทั้ง 4 ชีวิตในครอบครัวของเธอเป็นโรคมะเร็งกันทุกคน
ทุก วันนี้เริ่มมีข่าวว่าหลายๆครอบครัวมีสมาชิกครอบครัวที่เป็นมะเร็งกันมากกว่า 1 คน พวกเขาไม่ได้เป็นมะเร็งเพราะกรรมพันธุ์หรือพฤติกรรมการกิน แต่เป็นเพราะพวกเขาใช้เขียงที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้กินอาหารที่ไม่อนามัยเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจและเป็นมะเร็งกันทั้งครอบ ครัว

เหตุผล ที่ทำให้เขียงกลายเป็นสาเหตึของการเกิดมะเร็งนั้นเป็นเพราะเศษอาหารที่หลง เหลืออยู่บนเขียงสะสมสิ่งสกปรกและก่อให้เกิดสารอะฟลาทอกซินซึ่งเป็นอันตราย ต่อร่างกายมนุษย์ ถ้าหากคนเราได้รับสารอะฟลาทอกซินเพียง 1 มิลลิกรัมก็จะก่อให้เกิดเซลล์มะเร็ง และถ้าหากได้รับสารปริมาณ 20 มิลลิกรัมขึ้นไปก็จะทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้!

ทางที่ดีที่สุดควรจะแยกเขียง 2 อันไว้ใช้ในครัว สำหรับของสุกและของดิบ

การทำความสะอาดโดยทั่วไปจะไม่สามารถกำจัดสารอะฟลาท๊อกซินออกไปได้ เพราะสารพิษอะฟลาทอกซินสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 280 องศาเซลเซียส

การกำจัดสารอะฟลาทอกซิน:

1.โรย เกลือฆ่าเชื้อ: ใช้มีดขูดหน้าเขียงเพื่อขจัดเศษอาหารที่ตกข้างบนหน้าเขียวออก โรยเกลือลงบนหน้าเขียงอาทิตย์ละครั้งเพื่อฆ่าเชื้อและป้องกันหน้าเขียงไม้ แห้งแตก

2.น้ำส้มสายชูฆ่าเชื้อ: ราดน้ำส้มสายชูลงบนเขียงแล้วนำเขียงไปตากแดดจนแห้ง แล้วค่อยใช้น้ำเปล่าล้างออกให้สะอาด

3.ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาทำความสะอาด

การรักษาความสะอาดในห้องครัวเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับเครื่องครัวที่ต้องสัมผัสโดยตรงกับอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้กินอาหารที่มีเชื้อโรคและสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกาย!
ทีมา   http://www.siamupdate.com/news-179586

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ขนหัวลุก !! ญาติกำลังจะเผา พอเปิดโลงดูถึงกับช็อกกันทั้งวัด ปาฏิหารมีจริง ไม่น่าเชื่อ

ฮือฮาหนุ่มช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองทุ่งสง เป็นลมตาย ญาติตั้งสวดนาน 4 วัน ก่อนเผาเปิดโลงศพดูศพ ตะลึงสภาพสมบูรณ์เหมือนคนนอนหลับ เชื่อยังไม่ตายยกร่างออกจากโลงรอปาฏิหาริย์ฟื้น

กรณีญาติๆ ได้นำศพของ นายพัศกร จันทร์อุดม อายุ 40 ปี ช่างซ่อมทีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้าในตัวตลาด อ.ทุ่งสง ซึ่งเสียชีวิตจากการเป็นลม มาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดชุมพล อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นเวลา 4 วัน และกำหนดเผาเย็นวานนี้ (21 ธค.) แต่ปรากฏว่าก่อนเผาขณะที่ญาติเปิดฝาโลงศพดูศพก็พบว่าร่างของนายพัศกร ยังมีสภาพสมบูรณ์ เนื้อตัวยังอุ่นอยู่คล้ายกับคนนอนหลับ ญาติๆ เชื่อกันว่ายังไม่เสียชีวิต แต่อาจจะนอนหลับอยู่ จึงพากันนำศพออกจากโลงมาตั้งไว้บนศาลาของวัด เพื่อรอปาฏิหาริย์ให้นายพัศกรฟื้นขึ้นมาตามความเชื่อ

ล่าสุดเมื่อวัน ที่ 22 ธ.ค. ที่วัดชัยชุมพล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางญาติยังเฝ้าคอยลุ้นปาฏิหาริย์ให้นายพัศกรฟื้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวาน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ฟื้นแต่อย่างใด โดยญาติคนหนึ่ง เล่าว่า เมื่อ 5 วันที่แล้วนายพัศกร ได้ไปดื่มเบียร์ผสมน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง แล้วนอนหลับไป 2 ชั่วโมง เมื่อไปปลุกก็ไม่ตื่น จึงรีบนำส่ง รพ.ทุ่งสง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์ระบุสาเหตุเกิดจากกรดไหลย้อน จากนั้นญาติได้พาร่างนายพัศกรมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพฯ สวดจนครบตามประเพณี และก่อนเผาได้มีการเปิดฝาโลงพบร่างนายพัศกรยังมีสภาพสมบูรณ์เหมือนคนยังไม่ เสียชีวิตคล้ายคนนอนหลับ จึงรีบนำร่างออกจากโลงมารอปาฏิหาริย์ให้ฟื้นดังกล่าว

ทั้งนี้ ญาติคนหนึ่งยังเชื่อว่าอาจจะเกิดจากที่นายพัศกรชอบเล่นไสยศาสตร์ ก่อนนอนหลับนายพัศกรเคยสั่งญาติๆ ไม่ให้ปลุก แต่ญาติเผลอไปปลุกอาจจะทำให้วิญญาณเข้าร่างไม่ทัน ซึ่งล่าสุดทางญาติกำลังตามหมอไสยศาสตร์มาทำพิธีเพื่อเชิญวิญญาณกลับเข้าร่าง ท่ามกลางความฮือฮาของชาวทุ่งสงที่ทราบเรื่องราวดังกล่าวอยู่ในขณะนี้.
ทีมา   http://www.siamupdate.com/news-179647