เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 24 ธ.ค. ที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รถควบคุมผู้ต้องขังเรือนจำอำเภอเกาะสมุยได้นำตัวนายซอริน และนายเวพิว แรงงานต่างชาติชาวเมียนมา เชื้อสายยะไข่ จำเลยในคดีฆาตกรรมนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี และน.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ บริเวณโขดหินแหลม จปร. หาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 57 ที่ผ่านมา เพื่อมาฟังศาลอ่านคำพิพากษาตัดสินในคดีนี้ที่ห้องพิจารณาคดีบัลลังท์ 6 โดยจำเลยทั้งสองมีสีหน้านิ่งเฉย ท่ามกลางกองทัพนักข่าวหลายสำนักทั้งจากไทยและต่างประเทศมารอทำข่าว
ในการฟังคำพิพากษาในวันนี้เจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย ได้มาพร้อมกับพ่อและแม่ของนายเดวิด วิลเลี่ยม มิลเลอร์ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ส่วนครอบครัวของน.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ลูกของทั้งสองครอบครัวได้เสียชีวิตจากการเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะเต่า โดยตำรวจจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าลูกได้ทั้งสองครอบครัวก็เฝ้าติดตามการทำงานของกระบวนการยุติธรรมของไทยมาตลอด จนถึงวันนี้ซึ่งเป็นวันพิจารณาคดีพวกเราก็หวังว่าความยุติธรรมจะยังคงอยู่กับครอบครัวเราทั้งสอง
ด้านครอบครัวของนายเวพิว และนายซอริน ได้เดินทางมาศาลพร้อมด้วยทีมทนายความ โดยนางพิว ชุยนุก แม่ของนายเวพิว กล่าวผ่านล่ามทั้งน้ำตาว่า ยังเชื่อมั่นว่าลูกชายของตนเองทั้งสองคนไม่ได้เป็นคนฆ่าสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอย่างแน่นอน พร้อมกับเชื่อมั่นในความยุติธรรมของผู้พิพากษาที่จะตัดสินในวันนี้ ก่อนที่จะเข้าห้องพิจารณาคดี เพื่อฟังคำตัดสินในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้พิจารณาแล้วว่าทั้งนายเวพิว และนายซอริน มีความผิดจริง เนื่องจากมีพยานหลักฐานว่าทั้ง 2 คนฆาตกรรมนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี และน.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษจริง จึงพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน แม่ถึงกับช็อกรับไม่ได้กับสิ่งที่ลูกไม่ได้ทำทางบ้าน จำเลย กล่าว
สำหรับคดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า ได้แถลงปิดคดีเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยทนายของจำเลยแถลงปิดคดีเกาะเต่าขอให้ศาลยกฟ้องแรงงานชาวเมียนมา เพราะการดำเนินคดีกับจำเลยก่อนฟ้องคดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยรับสารภาพโดยไม่สมัครใจ ไม่มีดีเอ็นเอของจำเลยบนจอบที่ใช้ก่อเหตุฆาตกรรม กระบวนการเก็บดีเอ็นเอส่วนที่เชื่อมโยงกับจำเลยก็ขาดความน่าเชื่อถือ และโจทก์ขาดหลักฐานชิ้นสำคัญในการพิสูจน์ความผิดของจำเลย
ทีมา http://www.siamupdate.com/news-179717
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น